
โทนที่เป็นเอกลักษณ์ ความคลาสสิค และความสุขที่ได้ครอบครอง
หากเรามองเห็นเพียงแค่ภาพถ่ายที่ใช้ตั้งหน้างาน พรีเวดดิ้งอาจไม่มีความหมายกับใครหลายๆคน
จะมีสักกี่ช่วงเวลาที่เราจะใช้เวลาถ่ายรูปด้วยกัน ในความรู้สึกของคนที่กำลังจะแต่งงาน ความรู้สึกของความยินดีบนภาพถ่าย
ที่แม้แต่ในวันงานพิธีเราก็อาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะได้สัมผัส
ในวันหนึ่ง พรีเวดดิ้ง อาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ในวันที่โลกหมุนเร็วไปด้วยการแข่งขันกันหาเงิน มันอาจจะกลายเป็นค่านิยมเก่าๆของคนในสมัยข้างหน้า
ที่ไม่มีทางเข้าใจว่า เราในวันนี้ทำไปเพื่ออะไร เรามีเวลาว่างเพื่อให้ค่ากับความรู้สึกมากขนาดนั้นหรือไร

เหมือนศิลปะที่เข้าสู่โลกดิจิตอล เมื่อความรู้สึกอาจมีค่าน้อยกว่าความสมบูรณ์แบบ
เราอาจะไม่ต้องเดินทางจนเหนื่อยล้าเพื่อไปถ่ายภาพกับแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ใดสักที่ แล้วใช้โปรแกรมเสหมือนจริงสร้างมันขึ้นมาแทน
เมื่อถึงวันนั้น เราจะบอกกับคนรุ่นนั้นว่า การได้เห็น ได้มี ได้เป็น
มันจะดูไร้ค่าไปเลย เมื่อเทียบกับการได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ

หลายคนหลงใหลโทนสีภาพของรูปฟิล์ม ที่ให้ความรู้สึกที่มันไม่มีทางที่ดิจิตอลจะเหมือนได้ เราได้เห็นกล้องดิจิตอลวินเทจยุค90มากมายที่ราคาขึ้นสูงเพราะความนิยมในยุคปัจจุบัน หลายคนเรียกมันว่าโทนฟิล์ม
สำหรับเรา เราก็ชอบนะ แต่มันก็ยังไม่ใกล้เคียงโทนฟิล์มเลย ว่าเราโทนฟิล์ม มันคือการถ่ายด้วยฟิล์มจริงๆมากกว่า มากกว่าที่จะเรียกการแต่งรูปทำรูปว่า สไตล์โทนฟิล์ม รูปถ่ายดิจิตอลของเราเองก็ไม่เคยเรียกมันว่าโทนฟิล์มเลยเช่นกัน เราแค่ตั้งใจทำให้มันสวยในแบบของมัน

เราอยากมีความสุขไปกับรูปถ่ายที่คาแรคเตอร์ในแบบตัวของมัน รักในความเป็นตัวของมัน Digital หรือ Flim เราไม่อยากไปเรียกมันให้เป้นไปอย่างอื่น เราว่าถ้าวันหนึ่งมีคนเรียกรูปถ่ายฟิล์มว่า โทนดิจิตอล มันก็ดูแปลกๆเหมือนกัน
